ห้างสรรพสินค้าเป็นหนึ่งในปัจจัยการดำรงชีวิตที่สำคัญของคนเมือง เพราะนอกจากจะเป็นที่ที่สามารถไปจับจ่ายซื้อของได้ ยังเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ บางทีก็ใช้หลบเลี่ยงสภาพอากาศร้อนได้ด้วย เพราะส่วนใหญ่ ห้างก็จะเปิดเครื่องปรับอากาศให้มีอากาศเย็นสบาย
มีการศึกษาที่เปิดเผยว่า แม้ว่าจะมีการซื้อขาย online กันมากขึ้น แต่ห้างสรรพสินค้าก็มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็น่าจะเป็นจริงอย่างที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
หลาย ๆ คนอาจจะไม่ทราบว่า เพื่อที่จะสร้างสภาวะที่สะดวกสบายที่กล่าวถึงข้างต้นนี้ ห้างสรรพสินค้ามีการใช้พลังงานค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ซึ่งตามการศึกษาของ EnergyThai.com ในปี 2011 ห้างขนาดใหญ่ ๆ จะสามารถใช้ไฟฟ้าพอ ๆ กับ หรือมากกว่าจังหวัดขนาดเล็ก ๆ ได้เลยนะครับ
เปรียบเทียบความต้องการพลังงานจากห้าง และชุมชนขนาดเล็ก
เราอาจจะจัดกลุ่มกิจกรรมได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเจ้าของห้าง กับ กลุ่มลูกค้า
ห้างสรรพสินค้า
ติดตั้ง Solar Roof หรือ renewable energy อื่น ๆ
การใช้วัสดุตกแต่ง/โครงสร้าง ที่เหมาะสม เพื่อลดการบำรุงรักษา หรือยืดอายุการใช้งาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
การจัดการร้าน Retail shop ให้มีการใช้วัสดุที่ทนทาน ใช้ได้นาน
จัดทำ Zoning ให้เหมาะสม เพื่อการจัดการระบบปรับอากาศ และเปิดให้มีพื้นที่โล่งที่ใช้การระบายอากาศตามธรรมชาติให้มากขึ้น
จัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะของเสียจากร้านอาหาร (โดยเฉพาะร้านบุฟเฟ่ต์) หรือ อาหารสดที่หมดอายุ
จัดให้มีการแยกขยะที่เหมาะสม เพื่อรณรงค์การ recycle plastic
รณรงค์ให้ลดการใช้พลาสติก
รณรงค์ให้ใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น เช่น มีจุดชาร์จไฟราคาย่อมเยาว์
ดูแลระบบทำความเย็นให้มีประสิทธิภาพสูงอยู่ตลอดเวลา
ใช้แสงสว่างที่มีการปล่อยคาร์บอนต่ำ เช่น LED และใช้ sensor แสงสว่างสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีการใช้งานบ่อย
จัดซื้อจัดจ้างกับคู่ค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น Low carbon procurement
กลุ่มลูกค้า
เลือกห้างที่ใกล้ตัวท่านเป็นหลักก่อน
เลือกเวลาในการไปห้างที่ไม่พลุกพล่าน
เลือกการเดินทางที่เหมาะสม เช่น ใช้การเดินทางสาธารณะ
นำถ้วยน้ำไปด้วย เพื่อปฏิเสธการใช้ถ้วยพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง