คุณจะช่วยกันชลอโลกร้อน ในชีวิตประจำวัน ได้อย่างไร?
เราต้องการคุณ คุณ คุณ และคุณ มากกว่าที่คุณรู้
เราต้องการคุณ คุณ คุณ และคุณ มากกว่าที่คุณรู้
กิจกรรมการนอน
กิจกรรมการเดินทาง
การทำงาน
การกิน
แทบทุกกิจกรรมในแต่ละวันของเรามีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะในชีวิตสมัยใหม่ที่พึ่งพาการใช้พลังงานมากขึ้น ตั้งแต่ "การนอน - เครื่องปรับอากาศ" "การเดินทาง - ใช้เชื้อเพลิง" "การกิน - ใช้พลังงานในการปรุงอาหาร" "การทำงาน - เปิดไฟ/เครื่องปรับอากาศ" ฯลฯ ถ้าลองคำนวณคร่าว ๆ เราจะพบแบบนี้ครับ (อาจจะแตกต่างกันไป เพราะแต่ละคนก็มีชีวิตส่วนตัวไม่เหมือนกัน อันนี้ลองคิดแบบคร่าว ๆ เอาใจตัวเองนิดนึง)
ข้อมูลจากการประมาณการ โดยเฉลี่ยเราก็จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจวัตรประจำวันกันประมาณ 4 kg CO2e ต่อวันนะ
ข้อมูลจาก World Bank ในปี 2014 ชี้ให้เห็นว่า คนไทยใช้พลังงานไฟฟ้าใน 1 ปีเฉลี่ยต่อคนมากถึง 2,000 kWh (ไม่รวมเชื้อเพลิง) ซึ่งในปีนั้น เขาระบุว่าถ้าจะให้โลกมีความยั่งยืน การใช้พลังงานน่าจะอยู่ในช่องแดง ๆ ซึ่งก็เป็นประเด็นที่มีการคุยกันเป็นอย่างมากจนถึงปัจจุบัน ว่าประเทศที่มีรายได้มาก ๆ จะมีโอกาสลดการใช้พลังงานกันได้อย่างไร (เพราะมันมีแต่จะมากขึ้น)
(Source: World Bank, World Development Indicators. Notes: Both axes are logged; data is for 2014, most recent available; R2 is 0.81. )
ซึ่งตามรายงานของ UNFCCC เกือบ 70% ของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย มาจากภาคพลังงาน โดยมีพลังงานไฟฟ้าเป็นพี่ใหญ่ที่ราว 40% ตามมาด้วยพลังงานจากการขนส่งอีกเกือบ 30%
(https://unfccc.int/sites/default/files/resource/Thailand_LTS1.pdf)
ตามข้อมูลของ Our World in Data โลกเราทุกวันนี้ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกกันปีละประมาณ 5 หมื่นล้านตันเลยทีเดียว เทียบกับประเทศไทยที่ 3 ร้อยกว่าล้านตัน ก็คิดเป็นราว ๆ 6% ของโลกนี้
(https://ourworldindata.org/ghg-emissions-by-sector)
ในชีวิตประจำวัน พวกเราทุกคนก็สามารถช่วยสร้างวิถีชีวิตที่สมดุลได้นะ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจหมายถึงเราต้องลดความสะดวกสบายลง? ลดการใช้พลังงานลง? ลดการบริโภคลง? ถ้าช่วยกันคนละไม้ละมือ ก็จะช่วยได้มาก แค่เราลดการบริโภคโดยรวมลงคนละ 10% ก็จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อาจจะมากถึง 30 ล้านตันต่อปี ก็จะเกิดเป็นความสุขทางจิตใจขึ้นมาทันที เรามาดูกันนะ ว่ากิจกรรมง่าย ๆ จะช่วยลดคาร์บอนได้อย่างไรบ้าง
อีกกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ การปลูกต้นไม้ ต้นไม้ใหญ่ ๆ 1 ต้น จะช่วยดูดซับ CO2 ผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืชได้มากถึงปีละ 30-60 กิโลกรัม ยิ่งถ้าปลูกในลักษณะการปลูกป่า คือ มีการทับถมของซากใบไม้ในดิน (เพิ่มปริมาณคาร์บอนในดิน) ก็อาจจะสามารถช่วยกักเก็บ CO2 ได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
ลองสมมติดูว่า ทุกคนปลูกต้นไม้ใหญ่กันคนละ 1 ต้นต่อปี ประเทศไทยเรามีเกือบ 70 ล้านคน ก็จะได้ 70 ล้านต้นต่อปี เท่ากับกักเก็บคาร์บอนได้มากถึง 2-4 ล้านตันต่อปีเลยทีเดียว ปีต่อไปถ้ายังปลูกกันอีกคนละต้น ปริมาณการกักเก็บก็จะทวีคูณเป็น 4-8 ล้านต้น รู้งี้แล้ว เรามาช่วยปลูกต้นไม้ใหญ่ ๆ กันคนละ 1 ต้นต่อปีนะ
ในที่นี้ ขอเสนอแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อมที่ทำได้เอง เพื่อพิจารณานะครับ ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ช่วย ๆ กันไปครับ
อยู่อย่างพอดี
ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ถ้าจะให้ดีสำหรับบ้านที่ติดตั้งมิเตอร์ ToU ให้เปิดเครื่องปรับอากาศหลัง 4 ทุ่ม ก็จะลดค่าไฟได้ด้วยนะ และลดเวลาการใช้เครื่องปรับอากาศลงได้ (หากปิดเวลาเดิม ^ ^)
ติดตั้งพัดลม หรือระบบระบายอากาศเพื่อเพิ่มการระบายความร้อนออกนอกบ้าน
ปลูกต้นไม้รอบบ้านเยอะ ๆ เพื่อเป็นฉนวนความร้อนตามธรรมชาติ ลดภาระเครื่องปรับอากาศ
อาบน้ำอย่างพอดี ใช้เวลาการอาบที่เหมาะสม ปิดน้ำขณะถูสบู่ ปรับอุณหภูมิเครื่องทำน้ำอุ่นให้เหมาะสม และเช่นเดียวกับข้อ 1 อาบน้ำหลัง 4 ทุ่ม ช่วยลดค่าไฟลงได้นะ ^ ^
ซักผ้าให้พอดี
ใช้น้ำเย็นซักผ้า (บางเครื่องซักผ้า อาจจะมีทางเลือกในการทำความร้อน)
ตากผ้าให้แห้งตามธรรมชาติ ลดการใช้เครื่องปั่นผ้าแห้ง
รีดผ้าอย่างพอดี
อย่ารีดทีละตัว ให้รวบรวมไว้รีดทีเดียว
ถ้าเป็นไปได้ อย่ารีดในห้องแอร์
ใช้ไฟหลัง 4 ทุ่ม (อีกล่ะ -- ก็ไฟฟ้าราคาถูกหลัง 4 ทุ่ม - ถึง 9 โมงเช้า)
ดีที่สุดคือ ซื้อเสื้อผ้าที่รีดได้ง่าย หรือไม่ต้องรีด
กินอย่างพอดี
ลดปริมาณเศษอาหารให้ได้มากที่สุด
อย่าเปิดตู้เย็นบ่อย (^ ^ ยากนิดนึงนะ)
เดินทางอย่างพอดี
ใช้ระบบการเดินทางสาธารณะบ้าง ลดการใช้รถส่วนตัวลง
พยายามทำงานที่บ้านบ้าง ลดการออกนอกบ้าน
เดินบ้าง หากระยะทางไม่ไกล นอกจากจะช่วยลดคาร์บอน ยังทำให้ร่างกายสดชื่น แข็งแรงด้วย
จัดการขยะให้พอดี
ลดการใช้พลาสติกครั้งเดียวทิ้ง
แยกขยะ อาจจะนำขวดพลาสติกขายได้ด้วยนะ ลองดูในกิจกรรมที่นำเสนอในหน้า Home ของเรานี้นะ แค่แยกขยะจำนวน 300 กิโลกรัม ก็สามารถลดก๊าซเรือนกระจกไปได้ถึง 1.6 ตันกันเลย
ใช้แสงสว่างให้พอดี
เปิดไฟแสงสว่างเท่าที่จำเป็น อาจติด Motion sensor หรือ Light sensor ในตำแหน่งที่เหมาะสม
เปลี่ยนไปใช้แสงสว่างแบบคาร์บอนต่ำ เช่นไฟ LED ซึ่งอาจจะเปลี่ยนได้เลยในตำแหน่งที่ใช้ไฟบ่อย ๆ ส่วนตำแหน่งที่ใช้ไม่บ่อย หากหลอดไฟยังไม่เสีย ก็ใช้อันเก่าไปก่อน เพื่อลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และเก็บหลอดที่เปลี่ยนออกมาใช้เป็น spare ได้นะฮะ)
อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข การมีความสุขจะลดความร้อนภายในร่างกายลง ทำให้ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศบ่อย :) (อันนี้คิดเองฮะ)
สำหรับท่านที่พอมีกำลังทรัพย์ อาจจะทำได้เพิ่มเติม คือ
ติดตั้ง Solar roof / battery system
ติดตั้งระบบกระจก 2 ชั้น เพื่อเพื่มความเป็นฉนวนกันความร้อน
ติดตั้งระบบ Smart home เพื่อควบคุมการใช้พลังงานทุกอย่างภายในบ้าน
ติดตั้งระบบรดน้ำแบบพ่นฝอย เพื่อลดการใช้น้ำ
ติดตั้งถ้าหมักเศษอาหารเพื่อทำปุ๋ยใช้เองสำหรับสวนในบ้าน